Sunday, July 30, 2006

ใต้ตาดำ

.....ใครมีปัญหาเรื่องใต้ตาดำเป็นหมีแพนด้า หรือบางวันก็เมื่อยตา ปวดตาเหลือเกิน เพราะเล่นคอมมากไปนี่ล่ะ
แบบว่าเป็นปัญหาโลกแตกจริงๆ นะ ทำไงก็ไม่หายซะที ไม่รู้จะทำไงแล้ว นี่เลย.....


1. ดื่มน้ำแครอท ไม่น่าเชื่อใช่ไหม แต่น้ำแครอทช่วยได้นะ เพราะในแครอทเต็มไปด้วยวิตามินเอ ที่ให้ประโยชน์บำรุงสายตายังไงล่ะ
2. มองไปไกลๆ เวลาปวดตา เมื่อยตา อย่ามองสิ่งใกล้ๆ ตัว ให้มองไปไกลๆ มองยาวๆ จะช่วยให้สายตาหายปวดได้เหมือนกัน
3. ระวังเรื่องคอนแทคเลนส์ ใครที่ใส่คอนแทคเลนส์ อย่าใส่ตลอดเวลาเป็นอันขาด เพราะจะทำให้เกิดอาการเคืองตาได้ เพราะงั้น เวลาอยู่บ้านธรรมดาๆ ให้พักตาบ้าง
4. นวดตาเบาๆ เวลาเมื่อยๆ ลองหลับตา แล้วนวดวนเบาๆ ด้วยปลายนิ้วดูนะ จะสบายดีขึ้นได้

*เป็นห่วงเพื่อนๆทุกคนนะ*

Friday, July 14, 2006


100 สิ่งดีดี ที่ควรมีตลอดชีวิต
( 1 ) เอาใจเขามาใส่ใจเรา
( 2 ) เชื่อมั่นตัวเอง
( 3 ) อย่ามองคนที่หน้าตา
( 4 ) กล้าคิด พูด และทำ
( 5 ) เมื่อมีเรื่องจงหมั่นปรึกษาผู้อื่น
( 6 ) และจงเป็นที่ปรึกษาให้ผู้อื่นด้วย
( 7 ) อย่าโกหกกับเรื่องที่คุณคิดว่าผิด
( 8 ) ไว้ใจบุคคลที่สมควรไว้ใจ
( 9 ) เปิดใจให้กว้าง
( 10 ) มองการณ์ไกล
( 11 ) วางแผนอนาคต
( 12 ) อย่าโทษตัวเอง
( 13 ) มีความรับผิดชอบ
( 14 ) ตอบแทนเมื่อได้รับ
( 15 ) ให้ในสิ่งที่ผู้อื่นอยากได้หรือไม่มี
( 16 ) อย่าใช้อารมณ์ แต่จงใช้ความคิด
( 17 ) คิดถึงส่วนรวมให้มาก
( 18 ) ดูแลตัวเองให้เป็น
( 19 ) รู้ผิด ชอบ ชั่ว ดี
( 20 ) อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเสียเปล่า
( 21 ) อย่ารู้ค่าสิ่งที่อยู่กับเราต่อเมื่อเราสูญเสียมันไปแล้ว
( 22 ) จงรู้ตัวอยู่เสมอว่าตอนนี้กำลังทำอะไร
( 23 ) ที่ทำอยู่มีผลดี / เสีย มีประโยชน์ / ไร้ประโยชน์
( 24 ) อย่าวัวหายแล้วล้อมคอก
( 25 ) ให้อภัยแก่ตนเอง และ ผู้อื่น
( 26 ) อย่าเก็บอดีตมาทำร้ายตัวเอง แต่จงหัดที่จะเรียนรู้จากมัน
( 27 ) คนไม่ผิดคือคนที่ไม่เคยทำอะไร
( 28 ) ได้หน้าอย่าลืมหลัง
( 29 ) คุณไม่ใช่พระเจ้า อย่าคิดซ่อมความรู้สึกที่เสียไปแล้ว แต่จงวางแผนที่จะดูแลไม่ให้มันเสีย
( 30 ) อย่าอ่านข้อความที่มีประโยชน์ผ่านๆ
( 31 ) อ่านแล้วคิด คิดแล้วทำ หมั่นพัฒนาตนเอง
( 32 ) รู้จักแบ่งเวลาและหน้าที่
( 33 ) ทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมบ้าง
( 34 ) อย่าเห็นแก่ตัว
( 35 ) อย่ารอคอยในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
( 36 ) อย่ากลัวในสิ่งที่ตนสามารถสู้ หรือ เปลี่ยนแปลงมันได้
( 37 ) กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ หัดเติมให้คนอื่น แล้วเขาจะกลับมาเติมให้คุณเอง
( 38 ) เพื่อนไม่จำเป็นต้องเจอหน้ากันก็คุยกันได้
( 39 ) อย่าคิดว่าเขาไม่โทรมา ถ้าคุณก็ไม่เคยโทรหาเขาเช่นกัน
( 40 ) จงเป็นฝ่ายให้มากกว่าฝ่ายรับ
( 41 ) ดูแลบิดา มารดาให้ดี คุณมีโอกาสรีบทำซะก่อนจะไม่มี
( 42 ) อย่าเสียใจกับสิ่งที่เลวร้ายหรือสูญเสียไปแล้ว มันไม่กลับมาแต่คุณสามารถทำมันใหม่หรือเรียนรู้จากมันได้
( 43 ) คำพูดเมื่อพูดออกไปแล้ว ไม่สามารถเรียกกลับได้ ดังนั้นคิดก่อนพูด
( 44 ) อย่าทุ่มเทกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์
( 45 ) คำพูดให้กำลังใจคนได้ ปลอบใจได้ ยุให้ทะเลาะกันได้ ทำให้เสียความรู้สึกได้ จงรู้ที่จะพูด
( 46 ) ชีวิตไม่ใช่เกม พลาดแล้วเริ่มใหม่หรือกดโหลดได้
( 47 ) หาจุดหมายให้กับชีวิต
( 48 ) เครียดได้ แต่เครียดให้เป็น
( 49 ) ถ้างง เขียนหนังสือได้แต่เขียนให้เป็นภาษา
( 50 ) วันๆหนึ่งคุณทำอะไรไปบ้างที่ไม่ใช่กิน นอน เล่น
( 51 ) ไม่มีหมอคนไหนรอให้คนไข้จะตายแล้วค่อยช่วยหรอกนะ
( 52 ) เพื่อนคุณก็เช่นกันอย่าปล่อยให้เขา เครียดจนจะตายแล้วถึงไปถามหรือดูแล
( 53 ) ร่างกายไม่ใช่เครื่องจักร ให้มันพักผ่อนซะบ้าง
( 54 ) คุณซื้อนาฬิกาได้แต่คุณซื้อเวลาไม่ได้
( 55 ) ตอนนี้มีใครคอยคุณอยู่รึเปล่า ? ถ้ามีกลับไปหาซะ
( 56 ) ตอนนี้คุณคอยใครอยู่รึเปล่า ? จะคอยอย่างนี้ไปถึงเมื่อไหร่ ? ทำอะไรซะบ้าง
( 57 ) อย่ากล่าวคำว่าขอโทษบ่อย มีอะไรดีๆตั้งหลายอย่างที่ทำแล้วไม่ต้องตามขอโทษ
( 58 ) ตอนคุณลำบากคุณคิดถึงใคร ? คุณอยากให้ใครช่วยเหลือ ?
( 59 ) ตอนนี้คุณสบายอยู่ ? แล้วคนที่คุณเคยขอความช่วยเหลือล่ะ ? หมดประโยชน์ ?
( 60 ) ไม่ใช่ ? แล้วไง ?? ต้องให้บอกต่อมั้ย
( 61 ) ทำอะไรก็ได้ให้ตัวเองมีความสุข แต่อย่าบนทุกข์ของผู้อื่น
( 62 ) ตอนที่คุณกำลังอ่านประโยคนี้ จงรู้ไว้ซะว่าคุณเป็นมนุษย์และยังมีชีวิตอยู่
( 63 ) ใครเป็นคนทำให้คุณมีชีวิต ? ตอบแทนเขาบ้างหรือยัง ?
( 64 ) ไม่ต้องรอให้ถึงวันพิเศษใดๆ แค่เข้าไปบอกว่ารักเขาก็เพียงพอแล้ว
( 65 ) อย่ารอให้ถึงวันเกิดเพื่อน ถึงจะได้คุยกันหรือให้ของขวัญกัน
( 66 ) ไม่มีกฎหมายใดห้ามให้ของขวัญในวันธรรมดา
( 67 ) ถ้าเป็นคุณอยู่ดีๆมีเพื่อนเอาขนมมาให้ คุณจะรู้สึกดีไหม ? หรือว่าดูที่ราคาขนม ?
( 68 ) เหล้าทำให้คุณลืมได้ตอนเมาแอ๋ แต่เพื่อนแท้ทำให้คุณลืมเรื่องร้ายๆได้ตลอดชีวิต
( 69 ) อย่าคิดว่าตนเองไม่มีเพื่อนหรือไม่มีใคร อย่างน้อยๆถ้าคุณได้อ่านข้อความนี้ จงรู้ไว้ว่าคุณยังมีผู้เขียนอีกคน
( 70 ) อย่าคิดว่าตนเป็นคนที่โชคร้ายที่สุด และอย่าคิดว่าตนเองเป็นคนที่โชคดีที่สุด
( 71 ) อย่าพูดคำว่าไม่มาเป็นเราไม่รู้หรอก ถ้าคุณก็ไม่รู้เรื่องของเขาเช่นกัน
( 72 ) เหนื่อยแล้วพักซะเถอะ อย่าฝืนอ่านต่อเลย คนเขียนดีใจมากแล้วที่คุณอ่านถึงตรงนี้
( 73 ) อย่าคิดว่าคนดีไม่มีในสังคม เพราะคุณก็เป็นคนเพียงแต่คุณยังไม่ได้ทำอะไรบางอย่าง
( 74 ) ปริศนาในเกมคุณแก้ได้ แล้วทำไมปริศนาในชีวิตคุณแก้ไม่ได้ ในเมื่อบทสรุปก็อยู่ในตัวคุณ ?
( 75 ) คุณมองเพชรมองที่ความงามภายใน หรือป้ายราคาข้างนอก ?
( 76 ) ถ้าคุณกินอาหารเหลือ ลองนึกถึงเด็กที่ไม่มีอันจะกิน
( 77 ) มีเรื่องราวอีกมากมาย ที่ไม่ได้เขียนอยู่ในหนังสือลองค้นคว้าดูจะรู้
( 78 ) ลูกธนูที่ถูกปล่อยออกจากหน้าไม้ อันตรายน้อยกว่าหอกที่แทงมาจากข้างหลัง
( 79 ) การถูกหักหลังเป็นสิ่งที่เจ็บปวด อย่าให้มันเกิด ( 80 ) ทำยังไง ?? ต้องขโมยขึ้นบ้านก่อนถึงไปดูแลรั้วบ้านใช่มั้ย ??
( 81 ) ทำใจกับสิ่งต่างๆล่วงหน้าไว้บ้างก็ดี
( 82 ) จะยกตัวอย่างให้ สมมุติคนที่คุณรักจากไปตอนนี้ คุณคิดว่าคุณทำอะไรให้เขาบ้างหรือยัง ??
( 83 ) อย่าตอบว่าทำยังไงก็ตอบแทนไม่หมด ขอถามว่าทำรึยัง ? ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ?
( 84 ) คุณทำใจได้แล้วหรือถ้ามันเกิดอะไรขึ้น ? คุณไปร้องไห้ข้างโลงศพ ยังไงเขาก็ไม่ฟื้นหรือได้ยินหรอกนะ ?
( 85 ) ตัวคุณมีคุณค่าอยู่แล้ว อยู่ที่คุณรู้จักดึงมันออกมาใช้ได้รึเปล่า ??
( 86 ) หัดคุยกับตัวเองซะบ้าง แล้วจะรู้ว่ามีอะไรอีกมากที่คุณไม่รู้ ?
( 87 ) ร่างกายใช้มากี่ปีแล้ว เคยดูแลมันบ้างรึเปล่า ? หรือเอาไว้เพื่อให้วิญญาณมีที่สิงสถิตย์
( 88 ) การใส่เสื้อสวยๆ ไม่ช่วยให้ร่างกายดีขึ้นหรอกนะ ที่ดีขึ้นคือบุคลิกต่างหาก
( 89 ) หาความสุขของตัวเองให้เจอ หัดมีความสุขซะบ้าง อดีตเราลืมไม่ได้แต่เลิกคิดได้
( 90 ) ลองทำอะไรบ้าๆดูบ้างก็ดี อย่ายึดติดกับอะไรนักเลย
( 91 ) ผู้เขียนไม่ใช่คนรู้อะไรมากมาย ไม่ได้มาโชว์ว่าตัวเองอวดรู้ แต่อยากให้คุณได้รู้อะไรไว้บ้างก็ดี
( 92 ) สิ่งที่คุณปล่อยผ่านๆไปในชีวิต หรือ เรื่องที่คุณเห็นว่าไม่สำคัญ กลับมาดูแลตรงนั้นบ้างก็ดี
( 93 ) อย่าไว้ใจใครเกินไป ไม่ได้สอนให้ระแวงไม่ไว้ใจใคร แต่ระวังไว้บ้างก็ดี
( 94 ) อย่าตามเพื่อนนัก กินเหล้ากิน เล่นไพ่เล่น เที่ยวหญิงเที่ยว
( 95 ) ยาเสพย์ติดทุกชนิด อย่าคิดจะลองเด็ดขาด
( 96 ) อย่าทำตามเพราะเพื่อนทำกันหมด ร่างกายเขากะร่างกายเราคนละร่างกายกัน แน่นอนจิตใจก็เหมือนกัน
( 97 ) ผู้ชายยังไงก็คือผู้ชาย ผู้หญิงก็คือผู้หญิง
( 98 ) บางครั้งการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป
( 99 ) ไม่มีมิตรถาวร และ ศัตรูที่แท้จริง
( 100 ) จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อตัวเราเอง คนที่เรารัก และคนที่อยู่รอบกายเรา

Saturday, July 01, 2006


เรื่อง บริษัทแนะแนวที่แสนดี ของไอ้แซม

หวัดดีครับ ผมหัวโตเจ้าเก่า เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมมีเพื่อนอยู่คนนึง ชื่อ ไอ้แซม หนึ่งในบรรดาเพื่อนผมที่ Aus ชื่อฝรั่ง ดูอินเตอร์ ไฮโซ มากๆแต่ความจริงแล้วมันคือ คนอีสาน@ไทย ตอนอยู่ไทยมันชื่อ ไอ้แซ่บ แต่พอมาอยู่ที่ Sydney มันเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็น ไอ้แซม (มันคงคิดถึงบ้านมาก) ที่มันมาเรียนก็เพื่อเป็นการ up ตัวเองประหนึ่งว่าไปนอกเพื่อชุบตัว เลียนแบบลูกคนมีตังสุดฤทธิ์ มันเอารูปตอนอยู่ไทยให้ผมดูผมก็ว่าหน้าตามันเห่ย ๆ มิได้แตกต่างกับพ่อค้าส้มตำแถวๆบ้านผม ฮิฮิ (ประมาณว่าผมหล่อกว่าเยอะ) แต่ตอนนี้มันทำผมสีทองเป็นพวกการ์ตูนญี่ปุ่น วัยใส หล่อมาก…….ออกเสียงลากยาวตามความหล่อ

ไอ้แซม มันจะมีกิจวัตรประจำตอนเช้า(หรือเรียกอีกอย่างว่า “สันดาน” ข้อนี้สำคัญ ญ ใดคิดจะลงเอยด้วยต้องศึกษาดีๆ) คือ ดูดบุหรี่ (ใช้คำว่าสูบดีไปสำหรับมัน) แล้ว Build เพื่อให้เกิดอาการปวดท้องไม่คู่ (คือ คี่ ไม่อยากเขียนนะเนี้ยเพราะเดี่ยวจะมีกลิ่น) ด้วยความสงสัยของผมมีวันนึงผมถามมันว่า “ทำไมมึงไม่ไป ตุ๊ด ที่ห้องมึงวะ (แบบว่าอีตา Koala ใส่แว่น สั่ง censor คำอุบาทว์มาครับ)” ไอ้แซม ที่มั่นใจในความหล่อสวนกลับทันทีว่า“โอ้โห ห้องกูแม่งอยู่ตั้ง 9 คน แนะ ถ้าขืนกูรอเข้าที่ห้องกู กูคงอ๊วกเป็นท่อนแน่” ไอ้แซม อธิบายได้ดีมาก ผมชอบ เล่นเอาผมได้กลิ่นเลย

“มึงคิดดู ตอนที่กูจะมาที่นี่ กูไปติดต่อผ่าน บริษัท… (ขอสงวนชื่อบริษัทแนะแนวแห่งนี้ แต่ว่ามันเป็นฝ่ายไร้คุณธรรมชัวร์) มันบอกว่าถ้ากูลงทะเบียนผ่านมัน มันจะให้ที่พักฟรี 1 เดือน กูดูรูปห้องแล้วมันก็สวยดี ดีกว่าบ้านกูที่ อุดรอีก คิดไปคิดมาเออ Work กูเลยลงทะเบียนผ่านมันเลย” ไอ้แซม อธิบาย แล้วทำหล่อไปด้วย อือ มันหล่อจริง ๆ สงสัยจะเป็นเพราะขนจมูกที่ยาวขึ้นของมัน _ _ “

“พอกูมาถึงที่นี่วันแรก ไม่มีคนมารับ ดีที่กูมีที่อยู่ของอพาร์ตเมนท์ กูเลยมั่วนิ่มขึ้น Taxi ภาษาก็พูดไม่รู้เรื่อง โอยกูจะบ้า มาถึงอพาร์ตเมนท์ ตกใจ ทำไมคนเยอะจัง (ใจก็นึกว่ามีปาร์ตี้ต้อนรับ) อยู่กันเป็นสิบคนเลย ไม่เห็นเหมือนในรูปสักนิด ตู้เสื้อผ้าก็ต้องใช้กระเป๋านี่แหละ เพราะตู้มีอันเดียว แต่ใช้กันตั้ง 10 คน ดีนะตอนนี้ ไอ้ต้อ( เด็กไทยอีกคนที่ถูกหลอกจากบริษัทนี้เหมือนกัน) มันทนไม่ไหวออกไปแล้ว เลยเหลือ 9 คน“ มันเล่าให้ผมฟังอย่างปวดร้าวมาก แต่ผมฟังแล้วเพลินเป็นบ้า

ตอนเย็นวันนั้น คือความอยากรู้ 10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็น ผมตามมันกลับไปห้องมันด้วย (แม่เจ้า…..อีนาเบิ้ล…..God คำอุทานต่างของผมพลั่งพลูออกมาเต็มที่) สิ่งที่ผมได้เจอหาที่ไหนใน Sydney ไม่ได้อีกแล้วน่าจะติด Top 10 ของโลกนะผมว่า กางเกง เสื้อ แขวนกันเกลื่อนผมนึกว่า Shopping Mall หรือ ร้านสะดวกซื้อ ลิง ครับ ลิงพวกมันห้อยไปมาในห้องเต็มไปหมด กลิ่นนี่สุดยอด ทั้งรองเท้า ถุงเท้า (ลองนึกภาพและกลิ่นตามจินตนาการ รูป รส กลิ่น ตามประสบการณ์ของท่านดูนะครับ สำหรับผมมันเลวร้ายสุดๆ) (นึกแล้วจะอ๊วก)

“มึงอยู่ไปได้ไงวะ” ผมถามอย่างสุภาพมาก “อ้าว ของฟรีแล้วดีมีที่ไหนละ มาอยู่กับกูไหมละ” มันถามแถมยักคิ้ว (ดีไม่จับตูดผมด้วย)“OH NO”มันมารู้ทีหลังว่า คนไทยคนอื่น จ่ายค่าเรียน Week ละ 170 เหรียญ แต่มันจ่ายตั้ง 220 เหรียญ นั่นไง ค่าห้องฟรีของมัน ฮิฮิฮิ สมไอ้บ้าของฟรี ”นายแซมสุดหล่อ ไอ้ตูดหมึก”